4 สาเหตุหลักที่ทำให้ยื่นไฟแนนซ์รถไม่ผ่าน
หมวดบทความ
การยื่นไฟแนนซ์รถยนต์ จำเป็นต้องมีหลักฐานทางการเงินที่มั่นคง มิเช่นนั้นแล้วอาจถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อได้ วันนี้ ISUZU CHUB จะพาไปรู้จัก 4 สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อรถยนต์ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.ติดแบล็กลิสต์
อันที่จริงแล้วการติดแบล็กลิสต์ หมายถึง การที่ผู้ขอสินเชื่อมีประวัติผิดนัดชำระเกินกว่า 90 วัน (หรือ 3 งวดติดต่อกัน) ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ “เครดิตบูโร” นั่นเอง ทำให้ไฟแนนซ์ไม่กล้าปล่อยสินเชื่อใหม่ เนื่องจากเกรงว่าผู้ขอสินเชื่ออาจมีการผิดนัดชำระอีกได้
ซึ่งโดยปกติแล้วเครดิตบูโรจะเก็บข้อมูลสินเชื่อย้อนหลังสูงสุดไม่เกิน 3 ปี หากมีการชำระหนี้ที่ค้างหรือปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 3 ปีจนกว่าสถานะค้างชำระจะหายไป จึงจะกลับมามีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่ออีกครั้ง
2.ไม่มีเงินเดินบัญชี
การเดินบัญชีมีความสำคัญกับการขอสินเชื่อเป็นอย่างมาก เนื่องจากสถาบันการเงินต่างๆ จะขอตรวจสอบเอกสารที่แสดงถึงรายรับในแต่ละเดือน (บางอาชีพอาจถูกพิจารณารายรับเป็นราย 6 เดือน หรือ 1 ปี เช่น เกษตรกร ฯลฯ) หากบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว หรือไม่มีเงินเก็บในบัญชีเลย จะทำให้โอกาสได้รับอนุมัติลดลง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้ที่เป็นพนักงานประจำ มีเงินเดือนมั่นคง จึงมีโอกาสได้รับอนุมัติสูงกว่าผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขาย, อาชีพอิสระ ฯลฯ นั่นเอง
3.รายรับไม่เพียงพอกับค่างวด
หลักเกณฑ์พิจารณาสินเชื่อรถยนต์โดยส่วนใหญ่นั้น ค่างวดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนจะต้องเท่ากับหรือสูงกว่าครึ่งหนึ่งของรายรับในแต่ละเดือน ยกตัวอย่างเช่น หากค่างวดในแต่ละเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท จะต้องมีรายรับมากกว่า 20,000 บาทต่อเดือนเป็นอย่างน้อย โดยสถาบันการเงินบางแห่งอาจใช้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่านี้
4.มีหนี้สินมากเกินไป
นอกเหนือจากค่างวดจะต้องสัมพันธ์กับรายรับแล้วนั้น รายจ่ายในแต่ละเดือนยังส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อด้วยเช่นกัน หากมีหนี้ที่ต้องชำระทุกๆ เดือน เช่น ค่าบ้าน, ค่าบัตรเครดิต, สินเชื่อต่างๆ เหล่านี้จะถูกนำมาพิจารณาถึงความสามารถในการชำระของผู้กู้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมีแผนซื้อรถคันใหม่ ก็ควรวางแผนปิดหนี้บางส่วนที่มีอยู่เสียก่อน จะช่วยเพิ่มโอกาสได้รับอนุมัติได้